วิกฤติการเมืองขณะนี้ไม่กระทบอสังหาริมทรัพย์
29 มีนาคม 2553

ดร.โสภณ พรโชคชัย
sopon@thaiappraisal.org www.facebook.com/dr.sopon Line ID: dr.sopon

          คนกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ใจหายเหมือนกันที่มีการชุมนุมกันมากมายอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน  ถ้าว่ากันอย่างตรงไปตรงมา ก็ต้องบอกมา “พี่น้องเสื้อแดง” มาชุมนุมมากกว่า “พี่น้องเสื้อเหลือง” จริง ๆ แถมยังมาเดินเล่นกันหางยาวเป็นขบวนเสียอีก “พี่น้องเสื้อเหลือง” บางคนก็บอกว่ามาทำให้คนกรุงเทพฯ เดือดร้อน  ส่วน “พี่น้องเสื้อแดง” ก็บอกว่า กรุงเทพฯ ไม่ใช่ของคนกรุงเทพฯ กลุ่มเดียวนะว๊อย . . . . ก็ว่ากันไป
          สถานการณ์ขณะนี้อาจเรียกได้ว่า “T Who T It” หรือ “ทีใครทีมัน”  เมื่อ 2 ปีก่อน “พี่น้องเสื้อเหลืองปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ วันนี้ “พี่น้องเสื้อแดง” ก็เลยออกมา “Exercise” กันบ้าง ผมก็ได้แต่ภาวนาให้เรื่องนี้จบเร็ว ๆ แต่ไม่ว่าจะจบอย่างไร ก็ต้องมีคนไม่พอใจครับ ดังนั้นจึงต้องถือตามเสียงส่วนใหญ่เป็นดีที่สุดครับ เพราะเถียงกันไปคงไม่จบแน่นอน
          การถกเถียงจนบางครั้งเลยเถิดไปถึงความรุนแรงต่าง ๆ นั้น ทำให้มีคำถามว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์จะตกต่ำเพราะการเมืองหรือไม่ ผมขอบอกไว้ในที่นี้เลยว่า วิกฤติการเมืองในชณะนี้ไม่ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำแน่นอน ถ้าใครมาบอกอย่างนั้นกับเรา ก็เท่ากับว่าเขาตั้งใจที่จะพยายามกดราคาซื้อให้ต่ำกว่าความเป็นจริงมากกว่า อย่าไปเชื่อ . . .
          ผมเองยังเดินทางไปสังเกตการณ์การชุมนุมของ “พี่น้องเสื้อแดง” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา ผมขอบอกเพิ่มเติมโดยเฉพาะกับ “พี่น้องเสื้อเหลือง” ว่า ผมใส่เสื้อสีเขียวไปนะครับ ไม่ได้ใส่สีแดง (ฮา) ผมได้พบว่าการชุมนุมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และผมยังได้ลงภาพบรรยากาศใน Facebook ของผม และยังมีชาวต่างชาติในไทยมาแสดงความเห็นเช่นกันว่า การชุมนุมดูคล้ายงาน Carnival มากกว่าจะมีอันตราย
          ผมไปสังเกตการณ์และรายงานสถานการณ์ชุมนุมในครั้งนี้ ก็เพื่อให้นักอสังหาริมทรัพย์จากต่างประเทศที่มาประชุมสมาคมอสังหาริมทรัพย์โลก (FIABCI) ในวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เข้าใจ คลายความกังวล และไม่ยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทย ผมเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคม FIABCI ในประเทศไทย และขณะนี้ยังเป็นผู้แทน FIABCI โลกประจำองค์การสหประชาชาติ (UN ESCAP) อีกด้วย
          ต่อให้วันนี้มีรัฐประหาร ก็ยังไม่สะเทือนเลยครับพี่น้อง . . . รัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็ยังไม่ได้ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลงแต่อย่างใด ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงไปบ้าง
          อย่างไรก็ตามหากไม่มีรัฐประหารในครั้งนั้น เป็นไปได้ที่ราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าในปัจจุบัน เพราะรัฐประหารในคราวนั้นส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาคมโลกต่อประเทศไทย และส่งผลต่อเศรษฐกิจพอสมควร อย่างไรก็ตาม ราคาอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ได้ตกต่ำลงแต่อย่างใด
          ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ นั้น ประชาชนต้องไม่ตื่นตระหนก เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปบรรยายที่เนปาล ปรากฏว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่ได้ตกต่ำลงแต่อย่างใด และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ราคากลับเพิ่มสูงขี้นอย่างต่อเนื่อง
          ในวันที่ผมเดินทางกลับ ก็มีข่าวเดินขบวนของกลุ่มนิยมระบอบกษัตริย์ โดยสั่งปิดกรุงกาฏมาณฑุ แต่นักท่องเที่ยวทั้งหลาย ก็ยังสามารถเดินทางกลับโดยใช้สนามบินได้ จะสังเกตได้ว่าในประเทศเนปาลมีความยุ่งเหยิงอย่างมาก ตั้งแต่การฆาตกรรมหมู่ในเชื้อพระวงศ์ การยกเลิกระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช และการประท้วงจนมีผู้ล้มตายจำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านั้นแล้ว ราคาอสังหาริมทรัพย์ก็ยังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเหล่านั้น ราคาก็คงเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้อีก
          แม้แต่ในเทศบาลเมืองเบตงที่อยู่ในจังหวัดยะลา สถานการณ์ก็ยังปกติ ราคาอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ได้ตกต่ำลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ผมได้ไปสังเกตการณ์ที่เบตงในวันพุธที่ 17 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยเดินทางพร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่กรมประเมินค่าทรัพย์สินมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยในระหว่างผมได้รับเชิญให้ไปบรรยายอสังหาริมทรัพย์ที่ปีนัง
          ที่เราอาจคิดว่าย่ำแย่กว่านั้นก็คือ พม่า ซึ่งมีความยุ่งเหยิงทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาอสังหาริมทรัพย์ก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะในขณะนี้อสังหาริมทรัพย์พม่ากำลังรอวันฟื้นตัวครั้งใหญ่หลังเลือกตั้งปี 2553 หากมีสัญญาณที่ดี ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังจะพุ่งสูงขึ้นอีกมาก
          อย่างไรก็ตามการเมืองมีผลต่ออสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นชัดก็คือพม่า ซึ่งเมื่อ 60 ปีที่แล้วอาจเจริญกว่าไทยเล็กน้อย แต่ขณะนี้ถือว่าล้าหลังกว่าไทยเป็นอย่างมาก ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียซึ่งเคยมีความยุ่งเหยิงทางการเมือง ก็ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์อยู่ในระดับราคาที่ต่ำกว่าไทยในปัจจุบัน ดังนั้นการเมืองจึงเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว แต่ในระยะสั้น การกระเพื่อมทางการเมืองอาจทำให้เกิดการชะงักงันได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบด้านราคาแต่อย่างใด
          โดยสรุปแล้ว ในความเป็นจริงประชาชนคงไม่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่บางครั้งมีการกระพือข่าวให้สถานการณ์ดูน่ากลัวกว่าความเป็นจริง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการทำลายความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และอาจทำให้ประชาชนหลงขายอสังหาริมทรัพย์ในราคาถูกกว่าความเป็นจริง
          เราจึงควรรอบรู้และสังวรในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์