คนไทยล้วนรักสถาบันฯ: โปรดอย่าดึงฟ้าต่ำ
28 พฤศจิกายน 2554

ดร.โสภณ พรโชคชัย
sopon@thaiappraisal.org www.facebook.com/dr.sopon4

          การสาดโคลนกันทางการเมืองโดยการกล่าวร้ายหาว่าคนอื่นไม่จงรักภักดี ไม่รักสถาบันฯ นั้น จะส่งผลเสียหายต่อประเทศ 3 ประการ คือ ประการแรกเป็นการสร้างบรรยากาศการเกลียดชัง และหวาดระแวงกันในหมู่คนไทยด้วยกันเอง ประการที่สอง เป็นการทำลายระบบตุลาการของชาติ ถ้ามีผู้คิดร้ายต่อสถาบัน รัฐบาลต้องทำสำนวนให้รัดกุมและสั่งฟ้องศาลให้มีคำพิพากษาโดยเร็วที่สุด และประการที่สามเป็นการทำให้สถาบันมัวหมองเพราะถูกนำไปใช้ในทางการเมือง ผู้ถูกใส่ร้ายและญาติมิตรอาจเสื่อมศรัทธาได้

          สถาบันของเรามั่นคง อยู่ยั้งยืนยงเพราะคนไทยรักในหลวง ในสังคมอาจมีคนเห็นต่างบ้าง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังมีคนเกลียด ทองรูปพรรณก็ยังไม่สามารถใช้ทองทั้ง 100% ทำขึ้นได้ คนไทยส่วนใหญ่ยอมพลีชีพเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ถ้ามียกเว้นก็คงไม่ใช่ตาสีตาสา แต่เป็นคนมียศศักดิ์ใหญ่โต หรือคนรวย ๆ ที่มีสมบัติพัสถานมากมายต่างหากที่อาจไม่ยอมเสียสละ

          ในประวัติศาสตร์ สถาบันมักไม่เคยถูกล้มล้างโดยคนนอก แต่เป็นเพราะคนในใกล้ชิดเข้าลักษณะ “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” มากกว่า แต่โดยที่ในหลวงของเราทรงไว้ซึ่งทศพิศราชธรรม ให้ความเป็นธรรมและเป็นที่พึ่งแก่ทุกฝ่าย สถาบันที่เราเทิดทูนนี้จึงไม่อาจถูกใครมาทำลายได้ สิ่งที่เราคนไทยพึงระวังเพื่อปกป้องสถาบัน จึงไม่ใช่คนภายนอกแต่อย่างใด

          การจาบจ้วงสถาบันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและต้องถูกลงโทษ ในขณะเดียวกัน การอ้างความจงรักภักดีมาเอาดีใส่ตัว มารักษาอำนาจอภิสิทธิ์ของตน หรือมาทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ก็เป็นอาชญากรรม เป็นการสร้างความแตกแยก เป็นการทำให้สถาบันมัวหมอง คนที่ถูกทำร้ายอย่างไม่เป็นธรรม จะน้อยใจสถาบันฯ ได้ ดังนั้นต่อไปนี้ไม่ว่าฝ่ายใดก็ต้องไม่ดึงสถาบันมาเคลื่อนไหวทางการเมืองการต่อสู้ทางการเมืองต้องไม่ใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นประเทศจะเข้าสู่ทางตัน และนำไปสู่ความวิบัติในที่สุด

          การทำงานทางการเมืองต้องไม่ “ดึงฟ้าทำ ทำหินแตก แยกแผ่นดิน” ถ้าเราทำการเมืองให้สะอาดโดยไม่ดึงสถาบันฯ มาเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นได้เช่นนี้ ประเทศไทยก็ไปต่อได้